วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

จิ้งจกสองหาง

สวัสดีค่ะ สมาชิกจุลสารสภาอาจารย์ทุกท่าน ช่วงนี้ไข้หวัดต่าง ๆ ก็กำลังระบาดนะคะ ทั้งไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดา สารพัดไข้กันทีเดียว อย่างไรก็ต้องดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
คนไทยนั้นก็มีความเชื่อเกี่ยวกับจิ้งจกกันมาแต่โบราณแล้วนะคะ ฉบับนี้ก็มีเรื่องของ “จิ้งจกสองหาง” มาฝากกันค่ะ จิ้งจกนับเป็นสัตว์มงคลที่มีอานุภาพทางโชคลาภมาแต่เดิม มีคุณประโยชน์หลายอย่าง ที่มากที่สุดก็คือช่วยให้ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา จึงเหมาะแก่ผู้ทำการค้าทั่วไป ด้วยเหตุนี้เองทำให้มีคนนิยมสร้างเป็นเครื่องรางของขลังกันค่ะ ก็มีทั้งที่ทำจากไม้แกะ และทำจากโลหะต่าง ๆ ถ้าปลุกเสกกันให้ดีแล้วเชื่อกันว่าจะให้ผลทางเมตตามหานิยมด้วยค่ะ ในปัจจุบันคุณสมบัติข้อหลังเป็นที่นิยมกันมากขึ้น จึงเป็นเหตุให้มีการทำจิ้งจกสองหางออกมาหลายสำนักด้วยกัน นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องรางอีกประเภทหนึ่งพบเห็นได้ตามตลาดพระเครื่องเสมอ นั่นก็คือ การนำจิ้งจกสองหางจริง ๆ มาอบแห้งเลี่ยมพลาสติกไว้สำหรับให้พกติดตัวกันค่ะ นับว่าเป็นเครื่องรางที่น่ากลัวทีเดียวนะคะ (สำหรับคนที่กลัวจิ้งจก) อีกทั้งผู้ขายและผู้ซื้อก็เชื่อกันผิด ๆ ว่ามีคุณทางเมตตามหานิยมแรงกล้านัก
ทั้งที่การทำเครื่องรางชนิดนี้ออกขายก็ไม่ได้มีพิธีกรรมอะไรเลย เพียงแค่ผู้ทำจ้างเด็กไปเที่ยวหาจับจิ้งจกสองหางในธรรมชาติ (ถ้าคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ก็คือจิ้งจกพิการนั่นเองและก็พอจะหาได้ในแหล่งที่มีจิ้งจกชุกชุม) แล้วนำมาอบแห้ง สมัยนี้นิยมอบด้วยไมโครเวฟ เสร็จแล้วเลี่ยมพลาสติกก็เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ วิธีการที่เล่ามานั้นไม่มีในสมัยโบราณนะคะ ในสมัยก่อนนั้นบรรพชนของเรามองจิ้งจกสองหางในแง่มายาศาสตร์ก็จริง แต่ท่านก็กระทำเพียงแต่สร้างวัตถุมงคลขึ้นมาเลียนแบบ แล้วบรรจุคาถาอาคมที่ทำให้เกิดผลในทางต่าง ๆ ลงไป ไม่มีใครเอาจิ้งจกสองหางจริงๆ มาทำเครื่องรางกันอย่างทุกวันนี้หรอกค่ะ ก็นานาจิตตังนะคะ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ผู้เขียนเชื่อว่าการเชื่อมั่นในความดีจะดีที่สุดค่ะ แล้วพบกับทานตะวันได้ใหม่ฉบับหน้านะคะ.........สวัสดีค่ะ

เรียบเรียงจาก “สัตว์มงคล เครื่องราง ของขลัง” ของ กิตติ วัฒนะมหาตม์

ไม่มีความคิดเห็น: